วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

‘ลองเดอเซ่’ ส่งต่อ ‘ฟิวเจอร์ ออนไลน์’ ลุยธุรกิจขายตรง ตั้งเป้าโกยยอดขาย 1,000 ล้านบาท


ลองเดอเซ่ เหล้าเก่าในขวดใหม่ เนรมิต ฟิวเจอร์ ออนไลน์ ปรับแผนการตลาด-ภาพลักษณ์ใหม่ กรุยทางสร้างยอดขาย 1,000 ล้านบาทในธุรกิจขายตรง



ต้องยอมรับว่า “ลองเดอเซ่” คือ บริษัทขายตรงที่สร้างนักขายจากโนเนม ให้กลายมาเป็นนักธุรกิจที่มีรายได้หลักล้านต่อเดือนมาระดับวงการขายตรงไทยมาแล้วมากมาย แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างทำให้ “ธัชกร นาราปิติพร” และ “ภิญญาพัชธ์ วงศ์เรืองศรี” 2 สามี-ภรรยา ตัดสินใจยอมปล่อยวาง “ลองเดอเซ่” แล้วมาเปิดบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ซึ่งว่ากันว่าเปรียบเหมือน “เหล้าใหม่ในขวดเก่า”


การมาของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการขายตรงเมืองไทยอีกครั้งได้หรือไม่ ก็ต้องมาดูกัน!! เพราะก่อนหน้านี้ “ธัชกร” และ “ภิญญาพัชธ์” ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการขายตรงไทยมาแล้ว ด้วยการนำรูปแบบของธุรกิจขายตรง มามิกซ์กับการตลาดแบบชั้นเดียว หรือ Single Marketing


โดยนำดารานักแสดงชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้า เช่น การดึงเอา “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์คอลลาเจน มีเลิฟ (Me Love) ซึ่งได้สร้างยอดขายแบบถล่มทลายกันมาแล้ว หรือ การได้ซุปตาร์ตัวแม่อย่าง "แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ Longderse Secret หรือแม้กระทั่งการได้นางเอกสาวสวยมากความสามารถ อย่าง "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" มานั่งเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ Longderse S แป้งคุชั่นไข่มุกเนื้อ จนสร้างยอดขายกันมาแล้วมากมาย


ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถือว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นมากสำหรับธุรกิจ “ลองเดอเซ่” แต่หากจะวิเคราะห์องค์ประกอบของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” เมื่อเทียบกับ “ลองเดอเซ่” โดยใช้หลักการวิเคราะห์ SWOT มาดูกันว่า จะไฉไลกว่าเดิมหรือไม่
จุดแข็งของฟิวเจอร์ ออนไลน์


ความแปลกใหม่ของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ถือว่าแตกต่างจาก “ลองเดอเซ่” ค่อนข้างมาก เพราะนอกจากจะเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมๆ ทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็น โลโก้ใหม่ นักธุรกิจมืออาชีพเข้ามาเพิ่ม ประสบการณ์ของผู้บริหารที่มากขึ้น และแผนการจ่ายผลตอบแทนที่จ่ายเยอะขึ้น จากเดิมของ “ลองเดอเซ่” มีรายได้เพียงแค่ 4 ช่องทาง แต่ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ใหม่ มีรายได้มากถึง 6 ช่องทาง (เปรียบเทียบตาราง)

เมื่อพูดถึงประสบการณ์การบริหารงานของ 2 ผู้บริหารถือว่าโดดเด่นมาก เพราะ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ไม่ได้เริ่มต้นนับ 0 เพราะมีพื้นฐานเดิมมาจากลองเดอเซ่ ซึ่งทั้งสองรู้ดีว่าจะทำอย่างไรให้ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” เติบโต เหมือนกับลองเดอเซ่ เพียงแต่จะปล่อยของออกมา ช่วงไหนแค่นั้นเอง

ขณะที่สมาชิกของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ก็ไม่ได้เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะพื้นฐานของสมาชิกส่วนใหญ่ก็มาจาก “ลองเดอเซ่” และยังมีฐานสมาชิกกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติม ทำให้ฐานกำลังสมาชิกของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น


จุดที่ต้องปรับปรุงของฟิวเจอร์ ออนไลน์
          การที่ 2 ผู้บริหาร บริหารงานเอง และตัดสินใจเองทั้งหมด ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้น เช่น ผู้บริหารไม่อยู่นานๆ อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารของบริษัทได้ หรือหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายแบบสุดๆ ขึ้น กับ 2 ผู้บริหาร คนที่จะมาสานต่อและขับเคลื่อน “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ให้เดินต่อได้นั้น คนๆ นั้นจะคุมบังเหียนได้หรือไม่ ดังนั้นการจะให้ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” เป็นบริษัทที่มั่นคง และยั่งยืน รวมถึงการเป็นบริษัทที่เป็นมืออาชีพจริงๆ เชื่อว่าผู้บริหารทั้ง 2 น่าจะคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะการจะทำธุรกิจเติบโตให้ได้นานๆ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เพื่อส่งต่อให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปได้ในอนาคต


โอกาสทางธุรกิจของฟิวเจอร์ ออนไลน์
          การที่ 2 ผู้บริหารเคยเป็นทั้งแม่ทีม และผู้บริหารมายาวนาน ทำให้ทราบดีว่า สมาชิกและผู้นำ ต้องการอะไร เช่น สินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โปรโมชั่นที่โดนใจ ทั้งผู้นำและลูกค้า ประกอบการทั้ง 2 คน มีอำนาจตัดสินใจได้ทันที ไม่ต้องไปปรึกษาใคร ทำให้ปรับเปลี่ยนสถานการณ์ได้แบบปัจจุบันทันด่วน


อุปสรรคของธุรกิจฟิวเจอร์ ออนไลน์
อุปสรรคของธุรกิจถือว่า น้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ มีแต่ข้อควรระวัง กล่าวคือ สมาชิกกลุ่มเดิมที่เคยร่วมงานกันมา กับ “ลองเดอเซ่” ที่ออกไปทำค่ายอื่นแล้ว หรือคนที่ไปเปิดบริษัทเอง อาจมีการโจมตีผู้บริหารในเรื่องลบๆ บ้าง เพื่อดิส เครดิต และดึงคนของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ไปร่วมทีมด้วย ซึ่งเชื่อว่าทางผู้บริหารคงเตรียมมือไว้รองรับแล้ว เพราะของจริงมันก็คือของจริง และเชื่อว่าผู้บริหารทั้ง 2 น่าจะเอาอยู่อย่างแน่นอน


ความท้าทายของ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ไม่ได้อยู่ที่ประสบการณ์ หรือทีมบริหาร เพราะ 2 ผู้บริหารได้สะสมประสบการณ์บนถนนขายตรงมายาวนาน และมากพอแล้ว แต่การจะนำพานาวาลำนี้พุ่งทะยานไปสู่ยอดขาย 1,000 ล้านบาทตามที่ “ธัชกร” และ “ภิญญาพัชธ์”  คาดหวังไว้ต่างหาก คือบทพิสูจน์ของจริงว่า กุญซือขั้นเทพที่สร้างมนุษย์เงินล้านมาประดับวงการขายตรงมาแล้วมากมาย จะเนรมิตให้ “ฟิวเจอร์ ออนไลน์” ไต่บันไดฝั่งฝันได้หรือไม่ เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ใครว่า!! เจ้าสัวล้มไม่เป็น เจ้าพ่อเนสกาแฟยกธงขาว สั่งยุติขายตรง P80 มีผล 16 มีนาคม 2563 นี้


ใครว่า!! เจ้าสัวล้มไม่เป็น เจ้าพ่อเนสกาแฟยกธงขาว สั่งยุติขายตรง P80 มีผล 16 มีนาคม 2563 นี้


เรียกได้ว่า ล้มไม่เป็นท่า เมื่อเจ้าสัว “ประยุทธ มหากิจศิริ” เจ้าพ่อเนสกาแฟเมืองไทย สั่งให้ยุติการดำเนินธุรกิจของ “บริษัท เนเชอรัล เบฟ จำกัด” หรือที่รู้จักกันในนาม P80 โดยได้ทำหนังสือแจ้งออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่องแจ้งการยุติการดำเนินธุรกิจขายตรง



เนื้อความของจดหมายระบุว่า “บริษัท เนเชอรัล เบฟ จำกัด” มีความประสงค์ขอยกเลิกการประกอบธุรกิจขายตรงในวันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะไม่มีการจำหน่ายสินค้ากับสมาชิก โดยบริษัทฯ ขอกำหนดเงื่อนไขการคืนสินค้าดังต่อไปนี้
          สมาชิก - สามารถคืนสินค้าได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับสินค้า (กรณีซื้อก่อนวันที่ 16 มีนาคม 2563)
          ผู้บริโภคทั่วไป - สามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับสินค้า
ลงชื่อ กรรมการบริษัท



สำหรับบริษัท เนเชอรัล เบฟ จำกัด หรือที่เรียกติดปากกัน P80 ได้เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจมาเมื่อต้นปี 2562 โดยเจ้าสัว “ประยุทธ มหากิจศิริ” ได้ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า จะเข้ามารุกธุรกิจขายตรงแบบเต็มตัว โดยมีวลีที่ติดหู เรียกคะแนนจากสมาชิกเป็นอย่างมาก “ผมจะพา P80 ไประดับโลก ใครไปด้วย ตามผมมาครับ”



ด้วยจุดขายของ P80 ที่มีกลุ่มนายทุนใหญ่ เป็นถึงเจ้าสัวหมื่นล้านกระโดดเข้ามาเล่นในธุรกิจขายตรง โดยกล้าใช้ชื่อของตัวเองการันตีความมั่นคง ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่ได้ น้ำลำไยสกัดเข้มข้น ที่ช่วยให้การนอนหลับลึกมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทถึงขั้นจัดกิจกรรมพิเศษในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ โดยให้ณเดช พรีเซ็นเตอร์แบรนด์ P80 มานอนหลับโชว์กลางห้างฯ ดังกันเลยทีเดียว


การทำให้แบรนด์ เนสกาแฟ เป็นเบอร์ 1 ของตลาดกาแฟซองถือว่ายากแล้ว แต่การทำให้แบรนด์ P80 ติดทำเนียบแถวหน้าของธุรกิจขายตรงเมืองไทยยากมากกว่า แม้ในช่วงเริ่มต้น P80 จะได้พรีเซ็นเตอร์ชื่อดังอย่าง “ณเดช คูกิมิยะ” และนักมวยแชมป์โลกชื่อดังอย่าง “แมนนี่ ปาเกียว” มาเป็นแบรนด์เอมบาสเดอร์ พร้อมกับทุ่มงบโฆษณาชนิดแบบไม่อั้น ทำให้มีสมาชิกและผู้นำไหลเข้าไปบ้าง แต่สักพักผู้นำเหล่านี้ก็ไหลออก


ทำให้บริษัทต้องทุ่มงบประมาณจำนวนมากอีกครั้ง เพื่อจัดงานเปิดตัวแกรนด์โอเพ่นนิ่งอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและผู้นำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้แบรนด์ P80 ทะยานก้าวขึ้นติดตลาดขายตรงแต่อย่างใด ซ้ำร้ายผู้นำในยุคแรกและที่เข้าไปใหม่ก็เริ่มไหลออกเรื่อยๆ


สุดท้ายทำให้ผู้บริหารยอมตัดใจ เพื่อรักษาชื่อเสียงเอาไว้ ประกาศยุติการดำเนินธุรกิจขายตรงดังกล่าว งานนี้ต้องบอกว่า ใครว่าเจ้าสัวล้มไม่เป็น จริงไม่ครับ


วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

รัฐปิดหูปิดตา ปล่อยกาฝากขายตรงเกลื่อนเมือง เร่งตรวจสอบ 31 ธุรกรรมที่น่าสงสัยเข้าข่ายธุรกิจหลอกลวงผิดกฎหมายหรือไม่


รัฐปิดหูปิดตา ปล่อยกาฝากขายตรงเกลื่อนเมือง เร่งตรวจสอบ 31 ธุรกรรมที่น่าสงสัยเข้าข่ายธุรกิจหลอกลวงผิดกฎหมายหรือไม่


องค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ จัดระเบียบออนไลน์ ล้อมรั้วเครือข่าย ไล่ล่าขายตรงนอกคอก-แชร์ลูกโซ่มันนี่เกม-ฟอเร็กซ์-คริปโต ป้องกันเหลือบไรแอบแฝงหากิน ท้าแน่จริงชอบมันนี่เกมก็ทำไป แต่อย่ามาแอบอ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรง วอนบ้านใหญ่ในสลัม (บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย) อย่าโลกสวย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นฉุดภาพลักษณ์ตลาด MLM ทรุดหนัก ลั่นกลองรบ 14 กุมภาพันธ์ 63 เปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งเบาะแส เพื่อดำเนินคดีกับพวกแชร์ลูกโซ่ หลังมีกลุ่มคนร้องเรียนเข้ามาให้ตรวจสอบ 31 ธุรกรรมที่น่าสงสัยเข้าข่ายธุรกิจหลอกลวงผิดกฎหมายหรือไม่


พ.ต.อ.ดร.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธ์ ผู้กำกับสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปอท.และประธานองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ (STOP MONEY GAME) เปิดเผยว่า ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนให้ระวังธุรกิจขายตรงกลายพันธุ์เป็นมันนี่เกมกำลังระบาดมีพฤติกรรมเลียนแบบ ไม่ดำเนินการตามแผนการจ่ายผลตอบแทนตามที่ได้ยื่นไว้กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยไปเน้นการหาสมาชิกและการันตีการจ่าย ไม่เป็นไปตามรูปแบบธุรกิจขายตรง มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจขายตรงทำให้รูปแบบธุรกิจขายตรงผิดเพี้ยนไป ประชาชนทั่วไปไม่รู้เท่าทัน เพราะอ้างว่าได้รับอนุญาตจาก สคบ.แล้ว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวกำลังระบาดหนักไปทั่วประเทศ ขณะที่หน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เลย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น องค์การต่อต้านแชร์ฯ ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่มีการเฝ้าระวังในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2557 ในยุคคดียูฟัน จึงได้เปิดช่องทางในการรับแจ้งจากผู้เสียหาย เพื่อหาเบาะแสและยื่นเรื่องต่อหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับธุรกิจขายตรงกลายพันธุ์, แชร์ลูกโซ่, ธุรกิจแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) และธุรกิจคริปโตเคอเรนซีเถื่อนโดยจะเริ่มดีเดย์อย่างเป็นทางการในวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ โดยนับจากนี้เป็นต้นไปจะมีการเอาจริงเอาจังและจัดการกับธุรกิจธุรกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามไม่ให้พวกที่ดำเนินการธุรกรรมที่ผิดกฎหมายดังกล่าวข้างต้นเข้ามาแอบแฝงโดยใช้ธุรกิจขายตรงมาบังหน้าทำมาหากินอีกต่อไป และต้องการให้ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากสังคมจากผู้บริโภคทั่วไป จึงอยากของวิงวอนให้ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สมาคมฯ อย่ามองว่า ปัญหาการเข้ามาแอบอ้างหรือแอบแฝงธุรกิจขายตรงเป็นเรื่องธรรมดาควรจะลุกขึ้นมาปกป้องอาชีพของตนเอง ให้มีศักดิ์ศรี อย่าให้ใครมาย่ำยีทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงทรุดหนักลงไปกว่านี้อีก เพราะคนทั่วไปจะเหมารวมว่าธุรกรรมเหล่านั้นเป็นธุรกิจขายตรง
 “ผมขอท้าคนที่ทำมันนี่เกมหรือแชร์ลูกโซ่ว่า เอาให้ชัดๆ ถ้าชอบทำแนวมันนี่เกมหรือแชร์ลูกโช่ก็ให้ทำไป แต่อย่ามาแอบอ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรง เพราะมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงเขาเสียหาย เพราะธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เขามีกฎหมายรองรับ มีกระบวนการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังมีการสอบวัดมาตรฐานอาชีพมีการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ผู้จำหน่ายอิสระ นักขาย วิทยากร ผู้สนับสนุนงานขายเป็นอาชีพที่ได้รับการรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) แล้ว ว่าเป็นอาชีพ ผมจึงอยากฝากถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงและตลาดแบบมาช่วยกันปกป้อง คุ้มครอง ป้องกันอย่าให้ใครมากล่าวหาเหมารวมว่าเป็นพวกขี้โกงพวกหลอกลวง พวกแมลงสาปอีกต่อไป”


รายงานข่าวระบุว่า องค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ได้จัดตั้งไลน์กลุ่มสาธารณะขึ้นมาภายใต้ชื่อ “ห้องแจ้งข่าวสารแชร์ลูกโซ่ คดีฉ้อโกง ทั่วไทย” ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกในกลุ่มเกือบ 3,000 คน โดยภายในห้องไลน์กลุ่มดังกล่าวได้มีสมาชิกส่งข้อมูลเข้ามาอย่างเนื่องขณะนี้มีการรวบรวมและแจ้งเบาะแสให้เข้าไปตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ของธุรกรรมที่น่าสงสัยว่าจะเข้าข่ายเป็นธุรกิจขายตรงกลายพันธุ์ แชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกม ฟอเร็กซ์ และคริปโตเถื่อนหรือไม่ ประกอบด้วย 31 ธุรกรรมได้แก่
1. IBC
2. IBH
3. 168 club
4. Project M
5. ธนาคารแสงแดด
6. Mind Capital
7. EID
8. SFG2
9. PPD แนว Project M
10. PBSF พลังงานไฟฟ้า
11. หุ้น A-SHARE
12. ภูมิไทย อินเตอร์ เฮริบ
13. De Treading
14. Getwealth Academy (copy trade Forex)
15. Nettencion
16. My Mochy แนว Project M
17. Warren Money trade
18. นิวพาทเวย์ แนว Project M
19. GMI edge
20. Hiper Cash
21. kwj
22. P40
23. ICQ แนวProject M
24. GMI
25. Ezrax
26. ชณัฐดา กิ๊ฟช็อป (MT hand made)
27. ร้านลภัสกร เงินล้าน
28. Club Mbc 456
29. KDFX AFA
30. PU Network
31. Wesharing

อย่างไรก็ตามหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าธุรกรรมดังกล่าวมีการดำเนินการที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือระดมทุน มันนี่เกม โดยในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนกับสคบ. เพื่อดำเนินธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง 2545 มาตรา 19 และ พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน ฯ 2527 มาตรา 4, 5, 12 รวมถึงพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไข 2560 มาตรา 14 (1) และ ป.อาญา มาตรา 83, 91, 343


ส่วนพวกมันนี่เกม, ฟอเร็กซ์ และคริปโตเถื่อนจะเข้ามีความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน ฯ 2527 มาตรา 4, 5, 12, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) และ ป.อาญา มาตรา 83, 91, 343 เป็นต้น โดยคดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหายประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดสามารถกล่าวโทษและแจ้งเบาะแสให้หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายได้และยังจะส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากรให้ตรวจสอบรายได้ว่า มีการเสียภาษีครบถ้วนหรือไม่อย่างไร ถึงเวลาประชาชนเอาจริงชักทีถึงเวลาแยกน้ำแยกปลา อะไรคือขายตรง อะไรคือแชร์ลูกโซ่ อย่าเหมารวมคนดีต้องมีที่ยืน คนไม่ดีต้องใช้กฎหมายดำเนินการอย่างเด็ดขาดอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลประชาชนคนบริโภคต้องรู้เท่าทัน

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เปิดโปง 3 แผนพิฆาต ยุทธการยึดเรนโบว์ 2 ผู้ก่อตั้ง แพแตก..ประกาศแยกทาง!!


เปิดโปง 3 ยุทธการ ยึดเรนโบว์ 2 ผู้ก่อตั้งแพแตก..ประกาศแยกทาง!!

เรียกได้ว่า “มาเร็ว เคลมเร็ว” จริงๆ สำหรับบริษัทขายตรงน้องใหม่ที่ชื่อ “เรนโบว์ คอร์ปอเรชั่น” เพราะเพิ่งจะจัดงานฉลองยอดขายทะลุ 100 ล้านบาทไปหยกๆ เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ก็มีอันต้องแยกวงการคัน หลัง 2 ผู้ก่อตั้ง (ดร.วิรุฬ ชลหาญ ประธาน และ ดร.สมัย พึ่งช้าง รองประธาน) ประกาศไม่เผาผีกันสะแล้ว ซึ่งว่ากันว่าปมของปัญหาการขัดแย้งกันในครั้งนี้ มาจากเรื่องเงินๆ ทองๆ



การประกาศแยกทางกันเดินแบบกะทันหัน!! เล่นเอาบรรดาผู้นำ-สมาชิกที่ไม่รู้อีโน อีเน้ งงเป็นไก่ตาแตก ว่า ทำไมทั้ง 2 ผู้ก่อตั้งถึงขั้นเตียงหัก ทั้งที่เริ่มก่อตั้งมาด้วยกัน ทำเอาแฟนคลับของทั้ง 2 เลือกข้างกันแทบไม่ทัน

เมื่อเหล่าสาวกของทั้ง 2 ตั้งสติกันได้แล้ว จากนั้นทั้งกองเชียร์ กองหนุนของ 2 ข้างก็เปิดศึก ถุยน้ำลายใส่กัน ดังสนั่นไปทั่วสื่อโซเซียล โดยพลพรรคของแต่ละฝ่าย ต่างงัดเอาข้อมูลเด็ดออกมาโจมตีกัน เพื่ออ้างความชอบธรรม


ฟาก “ดร.วิรุฬ” ประกาศไม่ขอตอบโต้ ยอมถอย แต่ไม่ยอมขอร่วมสังฆกรรมด้วย ก้มหน้าขอเป็นฝ่ายไปเอง ล่าสุดซุ่มเงียบเปิดบริษัทใหม่ รีครูทแม่ทีมเข้าสังกัด เปิดทางให้ “ดร.สมัย” นั่งแท่นประธานเรนโบว์ เต็มตัว


ด้าน “ดร.สมัย” ประเดิมคุมบังเหียนประธานเรนโบว์ป้างแดง สั่งย้ายสำนักงานใหม่ทันที อ้างไปอยู่ที่ใหม่กว้างกว่าเดิม บนพื้นที่ 28 ไร่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 นี้



ขณะที่ “ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก” เมื่อคนใกล้ชิดของฝั่ง ประธานเรนโบว์ คนใหม่ ออกอาการรับไม่ได้กับยุทธการยึดอำนาจที่มิชอบธรรม แฉ!! เบื้องหลังแผนยึดบริษัทเรนโบว์ ที่แท้มาจากแม่ทีมสุดแสบที่ออกโรงเชียร์ให้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจ ภายใต้แผนพิฆาต 3 ขั้น


ทันที!! ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มิชอบกับแผนดังกล่าวออกมาแฉ!! ก็ทำเอาคนเห็นด้วยกับแผนการยึดบังเหียน สั่งกระทืบเบรก!! กลางอากาศ เล่นเอาคนที่ออกมาแฉ!! หมุนติ้ว 18 ตลบ ทำให้ไม่มีใครกล้าจะออกมาเปิดปากอีก

งานนี้เข้าตำราที่ว่า “ถ้าคิดจะทำการใหญ่ ใจต้องเหี้ยม” อย่าทำแบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะจะเข้าสุภาษิตที่ว่า “ฆ่าควายอย่าเสียดายเกลือ”


จากนี้ไป เรนโบว์ จะเดินหน้าต่ออย่างไรนั้น จะนำมาเสนอให้รับทราบกันอีกครั้ง!!

จากใจจริง อยากเห็นทั้ง 2 ฝั่งสมานฉันท์ปองดองกัน ไม่อยากให้ทั้ง 2 ข้างสาดโคลนใส่กัน เพราะรังแต่จะทำให้สมาชิกและคนทั่วไปมองธุรกิจเครือข่ายขายตรงไม่ดี ดังคำสุภาษิตที่ว่า “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ” ท่านว่าจริงไหม