เปิดโปง 3 ยุทธการ ยึดเรนโบว์ 2 ผู้ก่อตั้งแพแตก..ประกาศแยกทาง!!
เรียกได้ว่า “มาเร็ว เคลมเร็ว”
จริงๆ สำหรับบริษัทขายตรงน้องใหม่ที่ชื่อ “เรนโบว์ คอร์ปอเรชั่น”
เพราะเพิ่งจะจัดงานฉลองยอดขายทะลุ 100 ล้านบาทไปหยกๆ เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา
ก็มีอันต้องแยกวงการคัน หลัง 2 ผู้ก่อตั้ง (ดร.วิรุฬ ชลหาญ ประธาน และ ดร.สมัย
พึ่งช้าง รองประธาน) ประกาศไม่เผาผีกันสะแล้ว ซึ่งว่ากันว่าปมของปัญหาการขัดแย้งกันในครั้งนี้
มาจากเรื่องเงินๆ ทองๆ
การประกาศแยกทางกันเดินแบบกะทันหัน!! เล่นเอาบรรดาผู้นำ-สมาชิกที่ไม่รู้อีโน อีเน้
งงเป็นไก่ตาแตก ว่า ทำไมทั้ง 2 ผู้ก่อตั้งถึงขั้นเตียงหัก
ทั้งที่เริ่มก่อตั้งมาด้วยกัน ทำเอาแฟนคลับของทั้ง 2 เลือกข้างกันแทบไม่ทัน
เมื่อเหล่าสาวกของทั้ง 2 ตั้งสติกันได้แล้ว
จากนั้นทั้งกองเชียร์ กองหนุนของ 2 ข้างก็เปิดศึก ถุยน้ำลายใส่กัน
ดังสนั่นไปทั่วสื่อโซเซียล โดยพลพรรคของแต่ละฝ่าย ต่างงัดเอาข้อมูลเด็ดออกมาโจมตีกัน เพื่ออ้างความชอบธรรม
ฟาก “ดร.วิรุฬ” ประกาศไม่ขอตอบโต้
ยอมถอย แต่ไม่ยอมขอร่วมสังฆกรรมด้วย ก้มหน้าขอเป็นฝ่ายไปเอง ล่าสุดซุ่มเงียบเปิดบริษัทใหม่
รีครูทแม่ทีมเข้าสังกัด เปิดทางให้ “ดร.สมัย” นั่งแท่นประธานเรนโบว์
เต็มตัว
ด้าน “ดร.สมัย” ประเดิมคุมบังเหียนประธานเรนโบว์ป้างแดง สั่งย้ายสำนักงานใหม่ทันที อ้างไปอยู่ที่ใหม่กว้างกว่าเดิม บนพื้นที่ 28
ไร่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 นี้
ขณะที่ “ความวัวไม่ทันหาย
ความควายเข้ามาแทรก” เมื่อคนใกล้ชิดของฝั่ง ประธานเรนโบว์ คนใหม่
ออกอาการรับไม่ได้กับยุทธการยึดอำนาจที่มิชอบธรรม แฉ!! เบื้องหลังแผนยึดบริษัทเรนโบว์ ที่แท้มาจากแม่ทีมสุดแสบที่ออกโรงเชียร์ให้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจ
ภายใต้แผนพิฆาต 3 ขั้น
ทันที!! ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มิชอบกับแผนดังกล่าวออกมาแฉ!!
ก็ทำเอาคนเห็นด้วยกับแผนการยึดบังเหียน สั่งกระทืบเบรก!! กลางอากาศ เล่นเอาคนที่ออกมาแฉ!! หมุนติ้ว 18 ตลบ ทำให้ไม่มีใครกล้าจะออกมาเปิดปากอีก
งานนี้เข้าตำราที่ว่า “ถ้าคิดจะทำการใหญ่
ใจต้องเหี้ยม” อย่าทำแบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะจะเข้าสุภาษิตที่ว่า
“ฆ่าควายอย่าเสียดายเกลือ”
จากนี้ไป เรนโบว์ จะเดินหน้าต่ออย่างไรนั้น
จะนำมาเสนอให้รับทราบกันอีกครั้ง!!
จากใจจริง อยากเห็นทั้ง 2
ฝั่งสมานฉันท์ปองดองกัน ไม่อยากให้ทั้ง 2 ข้างสาดโคลนใส่กัน เพราะรังแต่จะทำให้สมาชิกและคนทั่วไปมองธุรกิจเครือข่ายขายตรงไม่ดี
ดังคำสุภาษิตที่ว่า “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ”
ท่านว่าจริงไหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น