วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563

มึน!! สคบ.ยัน PB. Smart Farmer ไม่ใช่ ‘ขายตรง’ โยนเผือก ‘กลต.’ พิพากษา อ้างทำได้แค่เตือนประชาชนให้ระวัง!!


สคบ.ยัน PB. Smart Farmer ไม่ใช่ ขายตรงโยนเผือก กลต.พิพากษา อ้างทำได้แค่เตือนประชาชนให้ระวัง!!



กระแสการชักชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ บริษัท พี.บี.สมาร์ท ฟาร์มเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PB. Smart Farmer ยังคงหนักหน่วงอย่างต่อเนื่อง มีตัวแทนที่สมัครเป็นสมาชิกได้ชักชวนให้ทั้งบุคคลทั่วไปและนักธุรกิจเครือข่ายเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัท ด้วยรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนแบบธุรกิจเครือข่าย กล่าวคือ แนะนำสมาชิกใหม่มาลงทุนจะได้ค่าแนะนำและค่าโบนัสบริหารทีม เป็นต้น



โดยบริษัทมีแผนจะขยายโรงงานผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจจองหุ้นตามแพ็คเกจการลงทุนตั้งแต่ 1,0001,000,000 บาท ซึ่งบริษัทจะจ่ายเงินปันผลประจำสัปดาห์ทุกวันศุกร์ เป็นเวลา 50-95 สัปดาห์

ทั้งนี้ได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยืนยันว่า จากการเข้าไปตรวจสอบของสคบ.เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัท พีบี.สมาร์ท ฟาร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PB. Smart Farmer ไม่ได้เข้าข่ายการเป็นบริษัทขายตรง เนื่องจากไม่ได้ขายสินค้า และไม่ได้มาขอจดทะเบียนกับสคบ.



อย่างไรก็ตาม สคบ.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ทราบรายละเอียดแล้ว ซึ่งทางก.ล.ต.ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางเว็บไซด์ของก.ล.ต.แล้ว ดังนั้นหน้าที่จึงอยู่ที่ก.ล.ต. ส่วนจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ต้องไปถามก.ล.ต.

“สคบ.ได้ไปตรวจสอบมาแล้ว บริษัทไม่ได้ขายสินค้า และไม่ได้จดทะเบียนกับสคบ.เป็นเพียงการขายหุ้นของบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเต็มจำนวน 350 ล้านบาท จึงไม่เข้าข่ายเป็นบริษัทขายตรงหรือตลาดแบบตรง สคบ.”



ก่อนหน้านี้ก.ล.ต. ออกมาระบุว่า หุ้น PB. Smart Farmer ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้เสนอขายต่อประชาชนในประเทศไทย และไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนดขึ้นเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น อาจไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นและเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน หรืออาจเปิดเผยข้อมูลเท็จ หรืออาจเปิดเผยข้อมูลในลักษณะที่ทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิด ดังนั้น ผู้ที่หลงเชื่อและลงทุนกับบริษัทดังกล่าวจึงอาจได้รับความเสียหาย และไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต.



“ขณะนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยกรณีนี้อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ นอกจากนี้ ก.ล.ต. จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอื่นด้วย

สำหรับผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนได้ที่ www.sec.or.th และแอปพลิเคชัน “SEC Check First” นอกจากนี้ หากผู้ลงทุนมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้ง SEC Help Center ที่สายด่วน ก.ล.ต. โทร. 1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึก และในกรณีที่ตรวจพบว่าเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. จะมีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น